Friday, February 21, 2014

วิธีก้าวข้ามไปสู่การมีรายได้แบบ Passive Income

    Passive Income คือ รายได้ กระแสเงินสดที่เข้ามาโดยที่เราไม่ต้องออกแรงทำงาน หรือพูดง่ายๆก็คือ ใช้สินทรัพย์บางอย่างทำงานแทนเรานั่นเองงงงง!!!!

    การที่จะทำให้ได้มาซึ่ง Passive Income นั้นมีหลายๆวิธี และปัจจุบันนี้ก็ได้มีหนังสือหลายๆเล่มที่ออกมาเพื่อสอนวิธีการเพื่อให้มีรายได้แบบ Passive Income และผมก็จะมาบอกเล่าวิธีการมีรายได้แบบไร้ขีดจำกัดแบบ Passive Income กันนะครับ

  แบบแรก ตอนนี้บูมมากครับ นั่นคือ ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ขอย้ำนะครับว่า ลงทุนครับ ไม่ใช่เก็งกำไร เพราะถ้าคุณเก็งกำไร อย่างไรคุณก็ยังต้องนั่งเฝ้าระบบของคุณอยู่ดี คือคุณเป็นเจ้านายตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีอิสระเต็มที่ แต่เราจะพูดในแง่ของการลงทุน ก็คือ เฟ้นหาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีพื้นฐานดีๆแล้วมาวิเคราะห์ โดยดูจาก งบการเงิน P/V P/BV ROE ดูตำแหน่งในอุตสาหกรรม ดูแนวโน้มธุรกิจ ดูการจ่ายปันผลว่าสม่ำเสมอหรือไม่(หาตัวที่มีปันผลตอบแทน 5% ขึ้นไปยิ่งดี) และที่สำคัญไม่แพ้ด้านการเงินคือ ผู้บริหารมีคุณธรรมหรือไม่ ถ้าคุณพบมันแล้วก็นำเงินเตรียมที่จะซื้อ เงินนี้อาจจะเป็นเงินเย็นที่เตรียมไว้สำหรับลงทุนโดยเฉพาะ หรือว่าจะเป็นเงินที่แบ่งไว้เพื่อออมก็ได้ จากนั้นรอหาโอกาสซื้อ ซื้อในตอนที่มันถูกกว่าราคาพื้นฐาน เช่น เจอวิกฤตหนัก แต่ต้องเป็นวิกฤตที่ไม่กระทบโดยตรงต่อพื้นฐานของบริษัท พอซื้อเสร็จก็นั่งทับมือไว้เลยครับ ท่องให้แม่น ไม่ขาย!! ไม่ขาย!! ไม่ขาย!! ไม่ขาย!! คุณต้องทนเห็นมันขึ้นมาเป็น 100% 200% หรือตกลง 50% 100% ให้ได้ตราบใดที่คุณยังมองว่าพื้นฐานยังเหมือนเดิม (อันนี้แรกๆผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกันครับ ทั้งดอยสูง พอตัดใจคัทปุ๊บ เด้งเลย) ทีนี้พอบริษัทจ่ายปันผลมา เราก็เอาปันผลนั้นไปเปลี่ยนเป็นหุ้นแล้วก็สะสมเพิ่มๆๆๆ จนดอกเบี้ยทบต้น ทบแล้วทบอีก จนปันผลที่ได้ต่อปีมีมากกว่ารายจ่ายต่อปี เพียงเท่านี้คุณก็จะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งการทำงานประจำอีก แต่ถ้าคุณไม่มีทุนมากพอให้ทำได้ในระยะเวลาอันใกล้ ก็ให้ใช้วิธีออมไปเรื่อยๆครับ ไม่เกิน 10 ปี คุณก็จะมีเงินเก็บอยู่ในบัญชีอย่างน้อยเป็นหลักล้าน แล้วทีนี้คุณก็จะทำอะไรได้ง่ายขค้นครับ

  ส่วนอีกวิธีหนึ่งนะครับ วิธีนี้คนส่วนใหญ่มองข้าม นั่นก็คือการทำธุรกิจเครือข่าย!! ขายตรงนั่นแหละครับ แต่ธุรกิจขายตรงผมเน้นว่าต้องศึกษาให้เข้าใจนะครับ เพราะปัจจุบันก็มีมากมายหลายๆยี่ห้อ ต้องศึกษาถึงระบบของมัน ว่า ยุติธรรมมั้ย? เอาเปรียบผู้จำหน่ายหรือเปล่า? สินค้ามีคุณภาพจริงมั้ย? ลูกโซ่หรือเปล่า? ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำในมุมมองของผมกันครับว่าการเลือกธุรกิจต้องเลือกอย่างไร ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า ที่ผมเขียนเป็นความเห็นของผมเท่านั้น ไม่ได้เป็นการบอกว่า "ต้อง" เลือกตามผมแต่อย่างใดนะครับ วิธีเลือกคร่าวๆก็ดู
- เราต้องสำเร็จได้ (หมายถึงทำแล้วสำเร็จได้นะครับ ไม่ใช่ไม่ทำแล้วบอกว่ายาก)
- ต้องเริ่มได้ทันที ควบคู่กับงานเดิมที่ทำอยู่
- มันต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต ไม่ใช่ทำสำเร็จก็ยังอดๆอยากๆอยู่ อันนี้ผิดทางแล้วครับ
แล้วก็วิธีพิจารณาบริษัทก็
- เปิดมานานแค่ไหน
- ต้องเป็นบริษัทที่มีทั่วโลก
- คุณภาพสินค้าต้องดี
- เห็นความสำคัญของผู้จำหน่ายมาก่อนกำไรบริษัท
- ต้องเป็นเครือข่ายแบบ MLM อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ ผมคิดว่ามันมีโอกาสสำเร็จมากกว่า SLM
- ไม่เป็นลูกโซ่ อันนี้ต้องดูที่แผนธุรกิจกันเลยทีเดียว
   เขียนมาถึงตรงนี้ หลายคนคงมองว่า ไอ้นี่จะชวนทำขายตรงแน่ ผมขอบอกเลยนะครับ ที่ผมเขียนบล็อกขึ้นมานี้ ถึงแม้ท่านผู้อ่านจะสนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำธุรกิจกับผมนะครับ ผมเพียงแค่ต้องการบอกในสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองข้าม โดยส่วนตัวของผมนั้น เป็นคนที่หาโอกาสให้กับตัวเองเสมอ ตอนแรกที่มีคนมาชวนผมไปฟังอบรมธุรกิจผมก็ไปฟัง แล้วเมื่อฟังแล้ว วิเคราะห์แล้ว มันมีความเป็นไปได้ ผมก็ไม่ปิดโอกาสตัวเอง ผมลงมือทำ ผมแค่อยากจะฝากไว้ว่า โอกาสเป็นของคนที่มองหาเสมอครับ ขอบคุณครับ

No comments:

Post a Comment